ประวัติโรงเรียน
ประวัติโรงเรียน

         โรงเรียนอนุบาลวัดลูแกประชาชนูทิศ ตั้งอยู่เลขที 47 หมู่ 7 ถนนแสงชูโต ตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โทรศัพท์034-566102 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดภาคเรียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 1เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2464 โดยอาศัยศาลาวัดลูกแกเป็นโรงเรียนประชาบาล นายอำเภอจัดตั้ง ดำรงอยู่ด้วยเงินช่ยวเหลือจากประถมศึกษา เปิดสอนตั้งแต่ชั้นป.1 ถึงป.4  และมีชื่อว่า "โรงเรียนวัดลูกแก"

          ต่อมานายกิมเลี้ยง วังตาล ยกที่ดิน 2ไร่ 30ตารางวา อยู่ในหมู่ที่ 7 ตำบลดอนขมิ้น นอกเขตวัดลูกแกที่ด้านตะวันออกติดถนนแสงชูโต

ด้านตะวันตกติดที่ดินของเอกชน ทิศเหนือติดกับสุขศาลา      โพธิ์เย็น ทิศใต้ติดต่อกับตลาด และได้สร้างอาคารเรียนเสร็จเรียบร้อย จึงได้ย้ายออกจากศาลาวัด เมื่อเดือนพฤศจิกายน  ..2475 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนลูกแกประชาชนูทิศและทางราชการได้เปลี่ยนอีกครั้งหนึ่งเป็นโรงเรียนบ้านดอนขมิ้น(ลูกแกประชาชนูทิศ)  แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า โรงเรียนไทย

.. 2510  จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมาก สถานที่เดิมไม่สามารถปลูกสร้างอาคารเพิ่มขึ้นได้จึงได้ติดต่อขอที่ดินวัดลูกแก   ทางวัดได้แบ่งที่ดินให้   2  ไร่   2  งานเศษ   สำหรับสร้างอาคารเรียนแบบ 004  ขนาด  10  ห้องเรียน  และได้ย้ายนักเรียนมาเรียน  เมื่อวันที่   26  มกราคม   2510  นักเรียนส่วนหนึ่งก็ยังเรียนอยู่ที่เดิม และได้ขออนุญาตทางราชการเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวัดลูกแก  (ลูกแกประชาชนูทิศ) 

                        ..  2514   ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนถาวรเป็นหลังที่  2  อาคารแบบ   004  ขนาด

 8  ห้องเรียน   ในที่ดินของวัด  และย้ายนักเรียนจากที่เดิมทั้งหมดมาอยู่แห่งเดียวกัน  เมื่อวันที่  21  พฤษภาคม  2514    ส่วนที่เดิมทางโรงเรียนได้ทำโฉนดในนามของโรงเรียน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้สุขาภิบาลดอนขมิ้นเช่า สร้างศาลาประชาคม  และอาคารพาณิชย์

                        .. 2516 จำนวนนักเรียนมากขึ้น ที่ดินสำหรับสร้างอาคารไม่มี   จึงได้ติดต่อกับนางประทิน วรประสิทธิ์, นางแสวง  ยอดสกุล  ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินของแม่ละม้าย  ยอดสกุล  เพื่อขอที่สำหรับสร้างอาคารเรียน  ทั้งสองได้ให้ที่ดินจำนวน  2  งานเศษ และได้ปลูกสร้างอาคารเรียนแบบ  004ขนาด  8  ห้องเรียน  เป็นอาคารหลังที่  3  และเด็กได้เรียนเมื่อวันที่  20  มิถุนายน  .. 2516

..  2520  จำนวนนักเรียนมากขึ้น ได้ขอที่ดินวัด เจ้าอาวาสวัดลูกแกแบ่งที่ดินของบริเวณหน้าสนามหน้าอุโบสถ  ด้านทิศตะวันตกของสุขศาลาโพธิ์เย็น  จำนวน  2 ไร่ เศษ  ปลูกสร้างอาคารเรียนแบบ  004  ขนาด 10 ห้องเรียน ได้งบจากราชการจำนวน  500,000 บาท  และประชาชนสมทบอีก 400,000  บาท  และได้ใช้เรียนเมื่อวันที่  1  พฤษภาคม  2521  เป็นต้นมา

ปี  .. 2529   ทางโรงเรียนได้ก่อสร้างอาคารคอนกรีตชั้นเดียว 2 ห้องเรียน สำหรับชั้นเด็กเล็ก  โดยคณะกรรมการผู้ปกครองนักเรียนร่วมกันจัดสร้าง

                        ปี  ..  2531   ได้งบประมาณก่อสร้างสนามฟุตบอลแบบ  . 1

                        ปี  ..  2534 โครงการขยายโอกาสทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1  ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 1

                        ปี  ..  2535  ขยายโอกาสเปิดทำการสอน  3  ระดับ  ตั้งแต่ชั้นอนุบาล  1  ประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2

                        ปี  ..  2536   ขยายโอกาสเปิดทำการสอน  3  ระดับ  ตั้งแต่ชั้นอนุบาล  1  ประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3  ครบตามหลักสูตร

ปี  .. 2537  ผู้อำนวยการได้เสนอข้อมูลโรงเรียน  ของบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน 2/28  โดยขอรื้ออาคารเรียนแบบ 004 ขนาด 10 ห้องเรียน และได้งบประมาณจำนวน 6,075,083 บาท เป็นอาคาร 3 ชั้น ใต้ถุนโล่ง  นายธวัช  วลีพิทักษ์เดช      จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากบริษัทอุตสาหกรรม น้ำตาลมิตรเกษตรจำกัด  บริจาคสร้างต่อเติมให้สมบูรณ์แบบ ได้รับความอนุเคราะห์บริจาคเงินสร้างสมทบอีกจำนวน 1,803,682 บาท    เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อวันที่  8  เมษายน  ..2537    สร้างเสร็จเมื่อวันที่  11  มกราคม  2538  และใช้ชื่อ  อาคารมิตรเกษตร

                        ปี พ.. 2537 นายธวัช   วลีพิทักษ์เดช   ได้เสนอข้อมูลของบประมาณสร้างอาคารอเนกประสงค์  ทางราชการพิจารณางบประมาณ  เป็นเงินจำนวน  1,900,000  บาท  สร้างแบบ  สปช.  206  คณะกรรมการมีความเห็นว่าเนื้อที่น้อย  ควรสร้าง  2  ชั้น  ผู้บริหารจึงได้นำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงแบบเป็นอาคาร  คสล.  2  ชั้น  ขนาดกว้าง  30  เมตร  ยาว  40  เมตรโดยขออนุเคราะห์จาก บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลมิตรเกษตร จำกัด   กรรมการโรงเรียน     ผู้ปกครองนักเรียน    ครู   อาจารย์    และกลุ่มสตรีบำเพ็ญประโยชน์  เป็นเงินจำนวน  3,801,482  บาท  ดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่  10  ตุลาคม  2537  สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 17  สิงหาคม  2538  รวมงบประมาณ  5,701,482  บาท  (ห้าล้านเจ็ดแสนหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบสองบาทถ้วน)

                        ปี  ..  2539   ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครู อาจารย์  ได้ร่วมกันหาเงินจัดสร้างรั้วและประตูหน้าโรงเรียน   โดยขอความอนุเคราะห์จากครู อาจารย์  ผู้ปกครอง  กลุ่มสตรีบำเพ็ญประโยชน์บริจาคเมื่อวันที่  24  มีนาคม  2539  แล้วเสร็จเมื่อวันที่  5  พฤษภาคม  2539  เป็นจำนวนเงิน  283,610 บาท

                        ในปี  ..  2539   ได้จัดสร้างสนามบาสเก็ตบอล      และวอลเล่ย์บอลด้านหลังอาคารเรียนเป็นเงินจำนวน  124,000  บาท  สร้างสวนหย่อม  (คุณประทีป  สืบบุญประเทือง)  ที่พักผ่อน  ห้องน้ำ  ห้องส้วม 

(นายธวัช    วลีพิทักษ์เดช,   นางสัจจา   วงศ์ภานุวัฒน์,   นายจินตนา   ชัยคุณแสง,    นางนงเยาว์    ธัญญธาดา) รวมเป็นเงิน  450,000  บาท  และมีศิษย์เก่า ผู้ปกครอง  กรรมการศึกษา ได้บริจาคซื้อคอมพิวเตอร์ เป็นเงิน  205,000  บาท

                        ท่านเจ้าอาวาสวัดลูกแก พระครูอาภากรกาญจนสิทธิ์      และรองเจ้าอาวาสวัดลูกแกได้ชวนเชิญประชาชนจัดสร้างถนนคอนกรีตจากอาคาร 1 ไปยังอาคาร  4  ความยาวประมาณ 300  เมตร  พร้อมทำสนามกีฬา  เป็นเงิน  400,000  บาท

เมื่อวันที่  11  พฤษภาคม  2539  โรงเรียนจัดงานฉลองอาคารเรียน  อาคารเฉลิมพระเกียรติและชุมนุมศิษย์เก่า  ได้เงินเหลือเป็นกองทุนการศึกษาและพัฒนาโรงเรียน  จำนวน 2,700,000 บาท  โดยใช้ดอกผล  จำนวนร้อยละ  70  ใช้จ่ายเพื่อพัฒนาโรงเรียนและเป็นทุนการศึกษา  ในวันดังกล่าวคุณสันติ   เจนวัฒนวิทย์ และพล...(พิเศษ)วัชร เข็มศักดิ์สิทธิ์ ได้แสดงเจตนารมณ์สร้างอาคารหอสมุดเจนวัฒนวิทย์ - เข็มศักดิ์สิทธิ์  จำนวน  3,000,000  บาท  ท่านละ  1,500,000  บาท  เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่   13  พฤศจิกายน  2539  และเสร็จตามสัญญาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม  2540  คุณสันติ  เจนวัฒนวิทย์  บริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ในห้องสมุด  จำนวน  300,000  บาท


 ปี  .. 2540   นายธวัช  วลีพิทักษ์เดช คณะกรรมการโรงเรียน ได้ติดต่อขอความอนุเคราะห์จากคุณกมล ว่องกุศลกิจ ของบประมาณสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น  และได้รับเงินค่าก่อสร้างเมื่อวันที่  7  เมษายน  2540  จากคุณ กมล    ว่องกุศลกิจ  และคุณชนินทร์  ว่องกุศลกิจ  เป็นเงินรวม  6,000,000 บาท  การก่อสร้างดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2540 งบประมาณขาดอีก 2,089,899 บาท คณะกรรมการโรงเรียนอนุมัติให้ใช้ดอกผลจากกองทุนการศึกษาและพัฒนาโรงเรียน  ผู้ปกครองนักเรียนและคณะครูอาจารย์ และคณะกรรมการโรงเรียนบริจาคสมทบ


 ในปี    .. 2540    ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เสนอของบประมาณปรับปรุงสนามกีฬาหน้าโรงเรียนจากสุขาภิบาลดอนขมิ้น คณะกรรมการโรงเรียน ได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน  150,000 บาท    เป็นเบื้องต้นและจะดำเนินการให้เป็นลานกีฬาและสวนสุขภาพเพื่อต้านยาเสพติดต่อไป

 ปี  ..  2541   ได้รับงบประมาณจัดสรรหมวดค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  รายการทำถนนและรั้วโรงเรียน 566,580 บาท (ห้าแสนหกหมื่นหกพันห้าร้อยแปดสิบบาทถ้วน)  ส้วม  2   หลัง  8   ที่นั่ง

  ปี  ..  2542   คณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัดกาญจนบุรีพิจารณาอนุมัติให้โรงเรียน

วัดลูกแกเป็นโรงเรียนในเครือข่ายสหวิทยาเขตมหามงคล      โรงเรียนอนุบาลอำเภอท่ามะกาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโรงเรียนอนุบาลท่ามะกา (วัดลูกแกประชาชนูทิศ)

ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ดำเนินการปรับปรุงโดยสร้างสระน้ำอนุบาล   จัดสวนเด็กเล่น  จัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนการสอน  สิ่งก่อสร้างอีก  เป็นจำนวนเงิน  250,000  บาท

.. 2543 ได้สร้างห้องคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนได้เรียนรู้ 1 ห้อง สร้างห้องอินเทอร์เน็ต 1 ห้อง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคณะกรรมการศึกษาผู้ปกครองนักเรียนบริจาคเงินจำนวน 1,115,000 บาท

.. 2544   จัดสร้างอาคารปกครองประชาสัมพันธ์    โดยผู้อำนวยการโรงเรียนติดต่อชมรมคนหนุ่มสาวลูกแก  ขอบริจาคเงินจำนวน 80,000 บาท และผู้ปกครองบริจาคเพิ่มเติม  ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2544  เป็นเงิน  150,000 บาท

.. 2545 จัดสร้างอาคารฝึกปฏิบัติด้านอาชีพ  และแหล่งเรียนรู้ตามมาตรฐาน ด้านหลังอาคารว่องกุศลกิจ โดยใช้เงินจากการทอดผ้าป่าสามัคคี  และคณะกรรมการสถานศึกษา  สร้างเมื่อวันที่  1 เมษายน  2545   แล้วเสร็จวันที่ 30  มิถุนายน  2545 เป็นเงิน  320,000 บาท

พ.. 2547  จัดสร้างรั้วรอบบริเวณอาคารชั้นอนุบาล  โดยได้รับเงินบริจาคจากคณะกรรมการสถานศึกษา ครู  ผู้ปกครองนักเรียน  ชุมชน เป็นเงิน   350,000   บาท ปรับปรุงบริเวณรอบอาคารมิตรเกษตร  ลานหน้าอาคารอนุบาล โดยการปูกระเบื้องรอบอาคาร  เป็นเงิน  180,000  บาท  สร้างห้องส้วมอาคารอนุบาล  จำนวน  6  ห้อง  เป็นเงิน   100,000  บาท   สร้างห้องสหกรณ์  โดยใช้งบบริจาค  และงบของสหกรณ์โรงเรียน  เป็นเงิน  250,000  บาท

ในภาพรวมโรงเรียนมีอาคารเรียน  5 หลัง เป็นอาคารคอนกรีตขนาด 4 ชั้น 1 หลัง ขนาด  3 ชั้น 1 หลัง   ขนาด 2 ชั้น 1 หลัง   ขนาด 1 ชั้น 1 หลัง   และอาคารไม้ขนาด 2 ชั้น 1 หลัง   มีห้องสมุดเป็นตึกคอนกรีต  3  ชั้น  1 หลัง อาคารหอประชุม และโรงอาหารคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลัง  สำหรับห้องน้ำและห้องส้วม  เป็นอาคารประกอบต่อเติมกับอาคารเกือบทุกหลัง โดยเฉพาะบริเวณโรงอาหาร ภายในอาคารต่าง ๆ จัดเป็น 41 ห้อง ประกอบด้วย ห้องพยาบาล  2 ห้อง ห้องคอมพิวเตอร์ 3 ห้อง    ห้องเรียนสีเขียว (Green Learning Room)  1  ห้อง   ห้อง Sound Lab 1 ห้อง  ห้องวิทยาศาสตร์ 1 ห้อง  ห้องคณิตศาสตร์ 1 ห้อง  ห้องฝึกงานอาชีพ 1 ห้อง  ห้องตัดผมและเสริมสวย  1 ห้อง ห้องพัฒนาบุคลิกภาพเด็กก่อนวัยเรียน 11 ห้อง  เรือนเพาะชำ 1 หลัง  สนามฟุตบอล   1 สนาม   สนามบาสเก็ตบอล 1 สนาม  สนามตระกร้อ 1 สนาม   สนามวอลเลย์บอล 1 สนาม  นอกจากนี้ยังจัดแบ่งบริเวณห้อง  บริเวณโรงอาหารเป็นห้องดนตรีอีกด้วย

โรงเรียนตั้งอยู่ในชุมชนลักษณะกึ่งชุมชนเมือง มีประชากรประมาณ   6,589  คน  ประชากรร้อยละ 98 นับถือศาสนาพุทธ   ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย และอาชีพรับจ้าง   สภาพเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลาง  รายได้ของประชาชนต่อหัวประมาณ   50,000  บาทต่อปี  สภาพชุมชนมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน  และกลุ่มเยาวชนปานกลาง

ปีการศึกษา 2548 โรงเรียนเปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษา ปีที่  3   จำนวนห้องเรียนรวม  41  ห้อง  มีนักเรียน   1,396 คน  เพศชาย  739  คน  เพศหญิง  657   คน มีครู จำนวน  59  คน  เพศชาย  5  คน   เพศหญิง  54  คน  มีวุฒิทางการศึกษาระดับปริญญาโท  2  คน ระดับปริญญาตรี  54  คน   ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี  3  คน   อายุของครูโดยเฉลี่ย   48   ปี    มีประสบการณ์ในการทำงานโดยเฉลี่ย  25 ปี  มีนักการภารโรง จำนวน 1 คน   ยามรักษาความปลอดภัย 1 คน   ปีการศึกษา  2548  มีนักเรียน  1,496  คน

แต่เดิมโรงเรียนใช้หลักสูตรการเรียนการสอนปีพุทธศักราช  2521   ปรับปรุง    ..  2533 ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเครือข่ายการใช้หลักสูตรขั้นพื้นฐาน  ..  2544   ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่   1    และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2548  โรงเรียนจัดระบบโครงสร้างบริหารโดยกระจายอำนาจการบริหารงานให้บุคลากรในโรงเรียนได้ร่วมคิด ร่วมวางแผน  ร่วมตัดสินใจ  และร่วมประเมินผล โดยแบ่งงานออกเป็น  4 งาน ได้แก่  งานด้านวิชาการ งานบริหารทั่วไป  งานบริหารบุคลากร งานบริหารงบประมาณ   ซึ่งมีผู้ช่วยผู้บริหารรับผิดชอบดูแล   4    คน   

นอกจากนี้มีคณะกรรมการซึ่งมาจากหัวหน้างานฝ่ายต่าง ๆ 4 งาน และหัวหน้าชั้นทุกระดับเป็นคณะกรรมการบริหารงานโรงเรียน มีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน   15   คน    มีหน้าที่กำหนดแผนงานการพัฒนาโรงเรียน ติดตามการพัฒนาโรงเรียน